
เซฮายยยทุกคนนนน้าาา กลับมาคราวนี้จะมาเล่าให้ฟังถึงการเดินป่ากับดอยที่สูงอันดับ 3 ของประเทศไทย ^o^
นั่นก็คือ....."ดอยหลวงเชียวดาว" ดอยหลวงเชียวดาวหรือยอดเขาที่มีความสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย รองมาจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก อยู่ในอุทยานแห่งชาติเชียงดาว เขตอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทางห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 70 กิโลเมตร มีความสูง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล เอาจริงๆเลยสารภาพ ก็ไม่รู้ว่าดอยหลวงเชียงดาวมันจะโหด ทรหดมากขนาดไหน5555 อย่าเอาแบบอย่างนะ ควรศึกษาข้อมูลดีๆก่อนที่จะไป เดี๋ยวจะระบมเด้ออ =.=' มารู้ตอนหลังจากที่กลับมาแล้วว่า จริงๆควรใช้เวลาอย่างน้อย 2 คืนที่นี่ แต่ด้วยหลายๆปัจจัยหลายๆประการเลยทำให้อยู่กันแค่ 2 วัน 1 คืน โดยสำหรับทริปนี้มีผู้ร่วมชะตาด้วยกัน 16 ชีวิต เอาหล่ะเริ่มได้!!
มีภาพมาให้ชมก่อนนนนเรียกน้ำจิ้มมมมมมมมมมม ปายยยย โกกกกกก
-แนบคลิปไว้ให้ชมกันด้วยยย เพิ่มความอยากไปอีก10ระดับ :3
https://youtu.be/XH3H51ERDq8
ปล.พี่(ไผ่)ในทริปเป็นคนตัดต่อ รวมทั้งนักแสดงในทริปก็คือผู้ร่วมชะตากับเรา ฮ่าาา

ต้องบอกก่อนว่าเส้นทางการพิชิตมี 2 เส้นทางหลักๆ ที่ให้เลือก แต่ละเส้นทางจะมีจุดเริ่มต้นอยู่คนละที่กัน ทางแรก เส้นทาง "ปางวัว" ที่ขึ้นชื่อเรื่องความชันมากก (ก.ไก่ล้านตัว5555555) ระยะทางเดินเท้า 6.5 กม. จะใช้เวลาเดินประมาณ 4-6 ชม. และเส้นทางที่ทางที่ 2 "เด่นหญ้าขัด" ระยะทางเดินเท้า 8.5 กม. ทั้งสองทางจะต้องใช้รถ 4W ของทางจนท.พาขึ้นไป เมื่อถึงแล้วค่อยเริ่มเดิน แต่เส้นทางนั้นไม่ชันเหมือนทางปางวัว ฮ่าๆ
ซึ่งแน่นอน ไม่ได้เลือกเอง5555555 พี่ๆในทริปจัดแจงเลือกให้เรียบร้อยแล้วว เดาไม่ยาก ปางวัวไปค่ะ 10 10 10 - -' ด้วยเหตุผลที่ว่า ใกล้กว่า แป็ปเดียวก็ถึง ชันกว่านิดหน่อย(หรอ) ไม่เป็นไรหรอกหน่าาา ยังหัวเราะกันไหวอยู่

สำหรับวันที่เราเดินขึ้นดอยหลวงคือ 28 ธันวาคม ลงวันที่ 29 ทุกคนก็จัดแจงซื้อของ สเบียงอาหาร และอุปกรณ์ต่างๆเตรียมขึ้นไป เพราะข้างบนไม่มีอะไรไว้ให้บริการเหมือนกับ ภูกระดึง แม้แต่ไฟฟ้ายังบ่มีเลยจ้าา5555 ไฟฉายล้วนๆ ทุกอย่างต้องนำขึ้นไปทั้งหมด จะแบกเองรึจะจ้างลูกหาบแบกแล้วแต่ตามสะดวกเลยจ้า ที่สำคัญ อย่าลืมข้าวห่อ(สำคัญมาก)ไว้กินระหว่างทาง ขนม นม เนย มาม่า ทุกสิ่งอย่างที่อยากกิน แต่ทว่าจะต้องนำขยะลงมาทิ้งด้วยน้าาาา

ช่วงตอนนั่งรถ4Wก็ไม่ได้หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเพราะลำพังนั่งก็ลำบากจะแย่ แฮะๆ แต่อยากบอกว่าธรรมชาติยังสวยงามอยู่มากๆจริงๆ
ถึงจุดเริ่มเดินก็เลสสโกกกก มันจะชันซักแค่ไหนกันเชียวว.. แอบกระซิบว่าวันที่เราเดินกันนั้นทางค่อนข้างลื่นเพราะเมื่อคืนน้ำค้างลงหนักมากกก

โน่นนนนน เดินขึ้นไปบนโน้นนนนน จะเห็นได้ว่ามันชันอยู่เกือบตลอดเลย ทางราบก็มีบ้างบางช่วง สลับๆกันไป แต่ส่วนใหญ่จะเดิน ขึ้น ขึ้น ขึ้นและขึ้นนน ยาวๆไป ระหว่างทางที่เพิ่งจะเริ่มเดินได้ไม่ถึงครึ่งชม. ลูกหาบบอกว่า พี่ๆ อีกแป็ปเดียวก็ถึงแล้ว >> เอ็งอย่าโกหกข้า ข้าเพิ่งจะเริ่มเดิน โธ่ =-=

โดยในช่วงการเดินนั้นเราก็พักกันอยู่เป็นระยะๆ พักถ่ายรูปบ้าง กินน้ำบ้าง พักเหนื่อยบ้าง ตามทางเราก็จะเจอป่าข้างทางสลับๆกันไป จากในภาพก็จะเป็นป่ากล้วย และ ป่าไผ่ คือมันยังสมบูรณ์อยู่ อยากให้มาสัมผัสด้วยตัวเองกันนะคะ

ท้าาดาาาาาหลังจากที่ฝ่าฟันความชันกันมาจนเหนื่อยโฮกกกก เราก็มาเจอทางแยกค่ะ ขอเรียกว่า สามแยกแห่งความหวัง ละกัน55555 ทางแยกนี้จะเป็นจุดที่ทางเดิน ทางปางวัว กับ ทางเด่นหญ้าขัดมาบรรจบเจอกันตรงนี้พอดีเป้ะ มีพี่ตะโกนมาว่า ถึงแล้วว ถึงแล้ววว ก็แอบดีใจ อ๋อ ถึงสามแยก -.-
ปล.เป็นจุดที่มีสัญญาณโทรศัพท์แบบเต็มเปี่ยม5555 ข้างบนไม่มีนะจ้ะ -3-

หลังจากุจุดพักตรงนี้ไป จะเจอทางแบบที่ว่า เดินได้ 10 ก้าว หยุดพัก555555 แบบนี้อยู่พักใหญ่ๆเพราะมันเหนื่อย ฮือออๆ ลูกหาบวิ่งแซงเลย นางหยุดแล้วหันมาบอกว่า พี่ๆเดินต่อเร็วววว อีกครึ่งชม.ก็ถึงแล้ววว เห้ยย ก็แอบดีใจนะ ครึ่งชมเองหรออ ป่ะ ฮึบบ! เดินกันต่อ ก่อนไป พักเติมพลังด้วยสตอร์เบอร์รี่ซ้ากกกหน่อยยย อยากจะบอกว่ากินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าที่นี่ละ อยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหนต้องลองมา ฮ่าๆ

เดินนต่อกันเถอะะะ มองไปซ้ายขวา ก็มีแต่เขียวๆ คิดในใจเมื่อไหร่จะถึงซะะะที แต่ไหนๆก็มาละ ถ่ายรูปเก็บไว้เยอะๆละกัน5555

จุดนี้คือเหมือนหลุดมาอีกโลกนึงเลย ฮ่าๆ ด้านหลัง ตรงเขา 3 ลูกนั้นชื่อ เขาสามพี่น้อง กล่าวได้ว่าเป็นมุมมหาชนก็ว่าได้ ตอนที่ถึงตรงนี้ ส่วนใหญ่ก็แวะถ่ายรูปบันทึกไว้ว่าวันนึงเราได้มาที่นี่ ^^ ส่วนเราก็ถ่ายรูปเช่นกัน ถ่ายอยู่พักใหญ่ๆ เพราะได้พักเหนื่อย แถมวิวก็ส๊วยย สวยย

เดินต่อไปปปป บางความรู้สึกก็แบบ เมื่อไหร่จะถึงซะที เมื่อไหร่จะถึงซ้าาาาที แต่เราก็จะยังไม่หยุดถ่ายรูปกันต่อไปป

ทางเดินช่วงตรงนี้สีมันจะออกทองหน่อยๆ เพราะพระอาทิตย์กำลังใกล้จะตกแล้ววว ซึ่งมันสวยมากกกกกกกก กดชัตเตอร์วนไปปป

หลังจากถ่ายรูปตรงนี้ก็ต้องรีบเดิน เพราะเดี๋ยวมันจะมืดเกินไปจะทำให้เดินลำบาก และอากาศก็เย็นลงทุกทุกทีแล้ววว ใกล้ถึงความจริงแล้ววว ฮึบบ อีกนิดเดียววว จากที่ลูกหาบบอกว่า ครึ่งชม. เราเดินกันอยู่ ชม.ครึ่งค่ะทุกคน555555
ระหว่างทางไปกางเต๊นท์ก็มีอะไรขำๆให้เราได้ยิ้มกัน จากป้าย ... จะความหมายว่า กางเต้นท์ลุงแก่ละ / กางเต้นท์ลุงแกละ / กางเต้นท์ลุงแก ละ คือทุกคนในทริปเดินผ่านก็หยุดอ่านแล้วก็เถียงกัน555555 สรุป คุณลุงชื่อแกละ เลยเป็น กางเต้นท์ลุงแกละะะ อ่อออจ้าาา 55555

ณ ตอนที่ถึงจุดกางเต้นท์นั้นก็มืดแล้ววว ไม่ได้ถ่ายจุดกางเต้นท์เลยย แต่มีวิวมาฝากกก อยากจะบอกว่าอากาศเย็นลงมากกก ต้องหยิบเสื้อกันหนาวที่มีทั้งหมดออกมาใส่ และน้ำค้างแรงพอสมควร

ช่วงเวลาตอนนี้คือ ทุกๆคนในทริปก็จัดแจงช่วยกันทำอาหาร ต้องขอบคุณพี่ลูกหาบที่มาช่วยก่อไฟ ทำกับข้าว และขอบคุณพ่อครัวทุกๆท่านที่ทำอาหารให้เราทุกคน ขอบคุณไข่เจียวของพี่ดาว หมูหมักของพี่แม็กซ์ ผัดผักของพี่ไผ่ และคนอื่นๆที่ช่วยกันทำนะจ้ะ -3- เป็นมื้ออาหารที่เปรมมาก ทั้งๆที่อยู่บนเขา555555 แถมพี่ลูกหาบยังไปยกแกงมาให้อีก 2 ถ้วยแหนะ อิ่มหนำสำราญสุดๆไปเลย
ภาพอาจจะไม่ชัด ขออภัยย -0-

หลังจากกินข้าวกันเสร็จเรียบร้อย เราทุกคนในทริปก็มานั่งล้อมวงเล่นเกมส์กัน ไม่ว่าจะเกมส์ปลาโลมาเอย ไพ่เอย เล่าเรื่องผี รึจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน แต่เล่นได้สักพักก็มีจนท.เดินมาเตือนว่าห้ามส่งเสียงดัง หลังจาก 4 ทุ่ม ตอนนั้นประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆได้ แต่คิดว่าหลายๆเต็นท์คงนอนกันแล้วเพราะเหนื่อยจากการเดินป่ามา แฮ่ๆ ใครที่ไปเดินวันนั้นก็ ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย5555555 แล้วเราก็แยกย้ายกันนไปปปเข้าประจำเต็นท์ของตัวเอง
คือตอนนั้นคิดแล้วว่าจะตื่นมาถ่ายดาวกับรอดูทางช้างเผือก แต่ก็โชคไม่ค่อยเข้าข้างสักเท่าไหร่เพราะ ฟ้าปิด เมฆเยอะมาก น้ำค้างก็แรงมากก และอากาศตอนนั้นก็ประมาณ 10 องศาต้นๆ หนาวววจ้าา หนาวววว นอนก็ไม่หลับ แต่ก็ต้องข่มตานอนเพื่อตอนเช้าจะได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น...
จากที่บอกไปตอนต้นว่า ทำไมถึงต้องนอน 2 คืน เพราะว่าทางที่เราจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นนั้นมันมี 2 ทาง คือ 1.ยอดดอยหลวงเชียงดาว 2.กิ่วลม ซึ่งจะต้องเลือกไปที่ใดที่หนึ่ง เพราะ2ที่นี้ จะต้องเดินคนละทางกัน เลยเป็นเหตุผลให้พัก 2 คืนถึงจะคุ้มมม จขกท.กับเพื่อนและพี่อีก3คน เราเดินไปทางยอดดอยหลวงเชียงดาว ส่วนพี่ในทริปอีกบางส่วนไปทางกิ่วลม ก็ได้เก็บภาพมาฝากทั้งทางยอดดอย และทางกิ่วลม
มาดูทางฝั่งยอดดอยหลวงกันก่อน .....
แสงแรกของวันนี้

ระหว่างทางที่เดินขึ้นมาอาจจะไม่เหนื่อยเท่าเมื่อกลางวัน เพราะเราเดินมาแค่ตัวกับกล้อง ไม่รู้เลยว่ามันสูงหรือชันแค่ไหนเพราะมันมืด55555 มาถึงแล้ววววววววว ยอดดอยหลวงเชียงดาววว พิชิตได้แล้วววววเย่ เยยยยย้ เฮือกกกก ถึงแม้จะนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นก็เช้า แต่ไม่เป็นไรรร มันโคตรจะคุ้มเลยย กับทั้งบรรยากาศ และมิตรภาพที่ได้รับกลับมา

ก็เพิ่งจะเคยเห็นว่าอากาศหนาวจนน้ำค้างกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งมันเป็นยังไง ไม่แน่ใจว่ากี่องศาแต่พี่จนท.บอกว่า เลขตัวเดียว บรึ๋ย =;=

มาชมภาพฝั่งกิ่วลมกันบ้างง แอบเสียดายที่ไม่ได้ไปทางฝั่งนี้ สวยแค่ไหนมาชมกันนน

ทางฝั่งกิ่วลมจะเห็นทะเลหมอกชัดมากกกก อิจฉามากกกๆ >< ไม่เป็นไรร เราจะมาซ้ำกันอีกสักรอบนึงง ฮ่าๆ
หลังจากที่พระอาทิตย์ขึ้นสักพัก เราก็ต้องลงจากยอดดอยเพื่อไปจัดแจงเก็บของเพื่อที่จะเดินทางกลับบกันนนน แต่ประเด็นหลักคือหิวว ดูจากภาพจะรู้ได้ว่ามันสูงและชัน ขาขึ้นมองไม่เห็น แต่ขาลงนี่ถ้ากระโดดได้คงทำไปแล้ว 5555

อันนี้เป็นภาพจุดกางเต้นท์เน้ออค้าาา เลือกเองได้เลยย

เช้าๆแบบนี้ได้มาม่าาาร้อนๆฟินสุดแล้วว ยังพอมีหมูหมักเหลือก็จัดแจงย่างต่อตอนเช้าา ฟินฟินกันไปป

หลังจากเสร็จทุกสิ่งอย่างแล้วก็เดินกลับบกันนน ต้องขอบคุณทุกๆคนที่มาร่วมทริปด้วยกันน ขอบคุณพี่แม็กซ์ พี่ไผ่ พี่เต้ง พี่ต๋อง พี่เจมส์ พี่ต้า พี่พั๊นซ์ พี่ดาว พี่ก้อย พี่ฝน พี่ฟิล์ม พี่ฟ่าง มิ้น และปิ่นนน แล้วพบกันใหม่เขาลูกหน้าาา :3 สวัสดีและขอบคุณค่าาา
[CR] - บันทึกเรื่องของเขา ณ ดอยหลวงเชียงดาว -
เซฮายยยทุกคนนนน้าาา กลับมาคราวนี้จะมาเล่าให้ฟังถึงการเดินป่ากับดอยที่สูงอันดับ 3 ของประเทศไทย ^o^
นั่นก็คือ....."ดอยหลวงเชียวดาว" ดอยหลวงเชียวดาวหรือยอดเขาที่มีความสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย รองมาจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก อยู่ในอุทยานแห่งชาติเชียงดาว เขตอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทางห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 70 กิโลเมตร มีความสูง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล เอาจริงๆเลยสารภาพ ก็ไม่รู้ว่าดอยหลวงเชียงดาวมันจะโหด ทรหดมากขนาดไหน5555 อย่าเอาแบบอย่างนะ ควรศึกษาข้อมูลดีๆก่อนที่จะไป เดี๋ยวจะระบมเด้ออ =.=' มารู้ตอนหลังจากที่กลับมาแล้วว่า จริงๆควรใช้เวลาอย่างน้อย 2 คืนที่นี่ แต่ด้วยหลายๆปัจจัยหลายๆประการเลยทำให้อยู่กันแค่ 2 วัน 1 คืน โดยสำหรับทริปนี้มีผู้ร่วมชะตาด้วยกัน 16 ชีวิต เอาหล่ะเริ่มได้!!
มีภาพมาให้ชมก่อนนนนเรียกน้ำจิ้มมมมมมมมมมม ปายยยย โกกกกกก
-แนบคลิปไว้ให้ชมกันด้วยยย เพิ่มความอยากไปอีก10ระดับ :3 https://youtu.be/XH3H51ERDq8
ปล.พี่(ไผ่)ในทริปเป็นคนตัดต่อ รวมทั้งนักแสดงในทริปก็คือผู้ร่วมชะตากับเรา ฮ่าาา
ต้องบอกก่อนว่าเส้นทางการพิชิตมี 2 เส้นทางหลักๆ ที่ให้เลือก แต่ละเส้นทางจะมีจุดเริ่มต้นอยู่คนละที่กัน ทางแรก เส้นทาง "ปางวัว" ที่ขึ้นชื่อเรื่องความชันมากก (ก.ไก่ล้านตัว5555555) ระยะทางเดินเท้า 6.5 กม. จะใช้เวลาเดินประมาณ 4-6 ชม. และเส้นทางที่ทางที่ 2 "เด่นหญ้าขัด" ระยะทางเดินเท้า 8.5 กม. ทั้งสองทางจะต้องใช้รถ 4W ของทางจนท.พาขึ้นไป เมื่อถึงแล้วค่อยเริ่มเดิน แต่เส้นทางนั้นไม่ชันเหมือนทางปางวัว ฮ่าๆ
ซึ่งแน่นอน ไม่ได้เลือกเอง5555555 พี่ๆในทริปจัดแจงเลือกให้เรียบร้อยแล้วว เดาไม่ยาก ปางวัวไปค่ะ 10 10 10 - -' ด้วยเหตุผลที่ว่า ใกล้กว่า แป็ปเดียวก็ถึง ชันกว่านิดหน่อย(หรอ) ไม่เป็นไรหรอกหน่าาา ยังหัวเราะกันไหวอยู่
สำหรับวันที่เราเดินขึ้นดอยหลวงคือ 28 ธันวาคม ลงวันที่ 29 ทุกคนก็จัดแจงซื้อของ สเบียงอาหาร และอุปกรณ์ต่างๆเตรียมขึ้นไป เพราะข้างบนไม่มีอะไรไว้ให้บริการเหมือนกับ ภูกระดึง แม้แต่ไฟฟ้ายังบ่มีเลยจ้าา5555 ไฟฉายล้วนๆ ทุกอย่างต้องนำขึ้นไปทั้งหมด จะแบกเองรึจะจ้างลูกหาบแบกแล้วแต่ตามสะดวกเลยจ้า ที่สำคัญ อย่าลืมข้าวห่อ(สำคัญมาก)ไว้กินระหว่างทาง ขนม นม เนย มาม่า ทุกสิ่งอย่างที่อยากกิน แต่ทว่าจะต้องนำขยะลงมาทิ้งด้วยน้าาาา
ช่วงตอนนั่งรถ4Wก็ไม่ได้หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเพราะลำพังนั่งก็ลำบากจะแย่ แฮะๆ แต่อยากบอกว่าธรรมชาติยังสวยงามอยู่มากๆจริงๆ
ถึงจุดเริ่มเดินก็เลสสโกกกก มันจะชันซักแค่ไหนกันเชียวว.. แอบกระซิบว่าวันที่เราเดินกันนั้นทางค่อนข้างลื่นเพราะเมื่อคืนน้ำค้างลงหนักมากกก
โน่นนนนน เดินขึ้นไปบนโน้นนนนน จะเห็นได้ว่ามันชันอยู่เกือบตลอดเลย ทางราบก็มีบ้างบางช่วง สลับๆกันไป แต่ส่วนใหญ่จะเดิน ขึ้น ขึ้น ขึ้นและขึ้นนน ยาวๆไป ระหว่างทางที่เพิ่งจะเริ่มเดินได้ไม่ถึงครึ่งชม. ลูกหาบบอกว่า พี่ๆ อีกแป็ปเดียวก็ถึงแล้ว >> เอ็งอย่าโกหกข้า ข้าเพิ่งจะเริ่มเดิน โธ่ =-=
โดยในช่วงการเดินนั้นเราก็พักกันอยู่เป็นระยะๆ พักถ่ายรูปบ้าง กินน้ำบ้าง พักเหนื่อยบ้าง ตามทางเราก็จะเจอป่าข้างทางสลับๆกันไป จากในภาพก็จะเป็นป่ากล้วย และ ป่าไผ่ คือมันยังสมบูรณ์อยู่ อยากให้มาสัมผัสด้วยตัวเองกันนะคะ
ท้าาดาาาาาหลังจากที่ฝ่าฟันความชันกันมาจนเหนื่อยโฮกกกก เราก็มาเจอทางแยกค่ะ ขอเรียกว่า สามแยกแห่งความหวัง ละกัน55555 ทางแยกนี้จะเป็นจุดที่ทางเดิน ทางปางวัว กับ ทางเด่นหญ้าขัดมาบรรจบเจอกันตรงนี้พอดีเป้ะ มีพี่ตะโกนมาว่า ถึงแล้วว ถึงแล้ววว ก็แอบดีใจ อ๋อ ถึงสามแยก -.-
ปล.เป็นจุดที่มีสัญญาณโทรศัพท์แบบเต็มเปี่ยม5555 ข้างบนไม่มีนะจ้ะ -3-
หลังจากุจุดพักตรงนี้ไป จะเจอทางแบบที่ว่า เดินได้ 10 ก้าว หยุดพัก555555 แบบนี้อยู่พักใหญ่ๆเพราะมันเหนื่อย ฮือออๆ ลูกหาบวิ่งแซงเลย นางหยุดแล้วหันมาบอกว่า พี่ๆเดินต่อเร็วววว อีกครึ่งชม.ก็ถึงแล้ววว เห้ยย ก็แอบดีใจนะ ครึ่งชมเองหรออ ป่ะ ฮึบบ! เดินกันต่อ ก่อนไป พักเติมพลังด้วยสตอร์เบอร์รี่ซ้ากกกหน่อยยย อยากจะบอกว่ากินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าที่นี่ละ อยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหนต้องลองมา ฮ่าๆ
เดินนต่อกันเถอะะะ มองไปซ้ายขวา ก็มีแต่เขียวๆ คิดในใจเมื่อไหร่จะถึงซะะะที แต่ไหนๆก็มาละ ถ่ายรูปเก็บไว้เยอะๆละกัน5555
จุดนี้คือเหมือนหลุดมาอีกโลกนึงเลย ฮ่าๆ ด้านหลัง ตรงเขา 3 ลูกนั้นชื่อ เขาสามพี่น้อง กล่าวได้ว่าเป็นมุมมหาชนก็ว่าได้ ตอนที่ถึงตรงนี้ ส่วนใหญ่ก็แวะถ่ายรูปบันทึกไว้ว่าวันนึงเราได้มาที่นี่ ^^ ส่วนเราก็ถ่ายรูปเช่นกัน ถ่ายอยู่พักใหญ่ๆ เพราะได้พักเหนื่อย แถมวิวก็ส๊วยย สวยย
เดินต่อไปปปป บางความรู้สึกก็แบบ เมื่อไหร่จะถึงซะที เมื่อไหร่จะถึงซ้าาาาที แต่เราก็จะยังไม่หยุดถ่ายรูปกันต่อไปป
ทางเดินช่วงตรงนี้สีมันจะออกทองหน่อยๆ เพราะพระอาทิตย์กำลังใกล้จะตกแล้ววว ซึ่งมันสวยมากกกกกกกก กดชัตเตอร์วนไปปป
หลังจากถ่ายรูปตรงนี้ก็ต้องรีบเดิน เพราะเดี๋ยวมันจะมืดเกินไปจะทำให้เดินลำบาก และอากาศก็เย็นลงทุกทุกทีแล้ววว ใกล้ถึงความจริงแล้ววว ฮึบบ อีกนิดเดียววว จากที่ลูกหาบบอกว่า ครึ่งชม. เราเดินกันอยู่ ชม.ครึ่งค่ะทุกคน555555
ระหว่างทางไปกางเต๊นท์ก็มีอะไรขำๆให้เราได้ยิ้มกัน จากป้าย ... จะความหมายว่า กางเต้นท์ลุงแก่ละ / กางเต้นท์ลุงแกละ / กางเต้นท์ลุงแก ละ คือทุกคนในทริปเดินผ่านก็หยุดอ่านแล้วก็เถียงกัน555555 สรุป คุณลุงชื่อแกละ เลยเป็น กางเต้นท์ลุงแกละะะ อ่อออจ้าาา 55555
ณ ตอนที่ถึงจุดกางเต้นท์นั้นก็มืดแล้ววว ไม่ได้ถ่ายจุดกางเต้นท์เลยย แต่มีวิวมาฝากกก อยากจะบอกว่าอากาศเย็นลงมากกก ต้องหยิบเสื้อกันหนาวที่มีทั้งหมดออกมาใส่ และน้ำค้างแรงพอสมควร
ช่วงเวลาตอนนี้คือ ทุกๆคนในทริปก็จัดแจงช่วยกันทำอาหาร ต้องขอบคุณพี่ลูกหาบที่มาช่วยก่อไฟ ทำกับข้าว และขอบคุณพ่อครัวทุกๆท่านที่ทำอาหารให้เราทุกคน ขอบคุณไข่เจียวของพี่ดาว หมูหมักของพี่แม็กซ์ ผัดผักของพี่ไผ่ และคนอื่นๆที่ช่วยกันทำนะจ้ะ -3- เป็นมื้ออาหารที่เปรมมาก ทั้งๆที่อยู่บนเขา555555 แถมพี่ลูกหาบยังไปยกแกงมาให้อีก 2 ถ้วยแหนะ อิ่มหนำสำราญสุดๆไปเลย
ภาพอาจจะไม่ชัด ขออภัยย -0-
หลังจากกินข้าวกันเสร็จเรียบร้อย เราทุกคนในทริปก็มานั่งล้อมวงเล่นเกมส์กัน ไม่ว่าจะเกมส์ปลาโลมาเอย ไพ่เอย เล่าเรื่องผี รึจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน แต่เล่นได้สักพักก็มีจนท.เดินมาเตือนว่าห้ามส่งเสียงดัง หลังจาก 4 ทุ่ม ตอนนั้นประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆได้ แต่คิดว่าหลายๆเต็นท์คงนอนกันแล้วเพราะเหนื่อยจากการเดินป่ามา แฮ่ๆ ใครที่ไปเดินวันนั้นก็ ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย5555555 แล้วเราก็แยกย้ายกันนไปปปเข้าประจำเต็นท์ของตัวเอง
คือตอนนั้นคิดแล้วว่าจะตื่นมาถ่ายดาวกับรอดูทางช้างเผือก แต่ก็โชคไม่ค่อยเข้าข้างสักเท่าไหร่เพราะ ฟ้าปิด เมฆเยอะมาก น้ำค้างก็แรงมากก และอากาศตอนนั้นก็ประมาณ 10 องศาต้นๆ หนาวววจ้าา หนาวววว นอนก็ไม่หลับ แต่ก็ต้องข่มตานอนเพื่อตอนเช้าจะได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น...
จากที่บอกไปตอนต้นว่า ทำไมถึงต้องนอน 2 คืน เพราะว่าทางที่เราจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นนั้นมันมี 2 ทาง คือ 1.ยอดดอยหลวงเชียงดาว 2.กิ่วลม ซึ่งจะต้องเลือกไปที่ใดที่หนึ่ง เพราะ2ที่นี้ จะต้องเดินคนละทางกัน เลยเป็นเหตุผลให้พัก 2 คืนถึงจะคุ้มมม จขกท.กับเพื่อนและพี่อีก3คน เราเดินไปทางยอดดอยหลวงเชียงดาว ส่วนพี่ในทริปอีกบางส่วนไปทางกิ่วลม ก็ได้เก็บภาพมาฝากทั้งทางยอดดอย และทางกิ่วลม
มาดูทางฝั่งยอดดอยหลวงกันก่อน .....
แสงแรกของวันนี้
ระหว่างทางที่เดินขึ้นมาอาจจะไม่เหนื่อยเท่าเมื่อกลางวัน เพราะเราเดินมาแค่ตัวกับกล้อง ไม่รู้เลยว่ามันสูงหรือชันแค่ไหนเพราะมันมืด55555 มาถึงแล้ววววววววว ยอดดอยหลวงเชียงดาววว พิชิตได้แล้วววววเย่ เยยยยย้ เฮือกกกก ถึงแม้จะนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นก็เช้า แต่ไม่เป็นไรรร มันโคตรจะคุ้มเลยย กับทั้งบรรยากาศ และมิตรภาพที่ได้รับกลับมา
ก็เพิ่งจะเคยเห็นว่าอากาศหนาวจนน้ำค้างกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งมันเป็นยังไง ไม่แน่ใจว่ากี่องศาแต่พี่จนท.บอกว่า เลขตัวเดียว บรึ๋ย =;=
มาชมภาพฝั่งกิ่วลมกันบ้างง แอบเสียดายที่ไม่ได้ไปทางฝั่งนี้ สวยแค่ไหนมาชมกันนน
ทางฝั่งกิ่วลมจะเห็นทะเลหมอกชัดมากกกก อิจฉามากกกๆ >< ไม่เป็นไรร เราจะมาซ้ำกันอีกสักรอบนึงง ฮ่าๆ
หลังจากที่พระอาทิตย์ขึ้นสักพัก เราก็ต้องลงจากยอดดอยเพื่อไปจัดแจงเก็บของเพื่อที่จะเดินทางกลับบกันนนน แต่ประเด็นหลักคือหิวว ดูจากภาพจะรู้ได้ว่ามันสูงและชัน ขาขึ้นมองไม่เห็น แต่ขาลงนี่ถ้ากระโดดได้คงทำไปแล้ว 5555
อันนี้เป็นภาพจุดกางเต้นท์เน้ออค้าาา เลือกเองได้เลยย
เช้าๆแบบนี้ได้มาม่าาาร้อนๆฟินสุดแล้วว ยังพอมีหมูหมักเหลือก็จัดแจงย่างต่อตอนเช้าา ฟินฟินกันไปป
หลังจากเสร็จทุกสิ่งอย่างแล้วก็เดินกลับบกันนน ต้องขอบคุณทุกๆคนที่มาร่วมทริปด้วยกันน ขอบคุณพี่แม็กซ์ พี่ไผ่ พี่เต้ง พี่ต๋อง พี่เจมส์ พี่ต้า พี่พั๊นซ์ พี่ดาว พี่ก้อย พี่ฝน พี่ฟิล์ม พี่ฟ่าง มิ้น และปิ่นนน แล้วพบกันใหม่เขาลูกหน้าาา :3 สวัสดีและขอบคุณค่าาา
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น